เมื่อวานมีหุ้นหนึ่งที่กำลังอยู่ในความสนใจ เป็นหุ้น IPO ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรก คือ เมื่อวาน (2 ก.ค. 63) ซึ่งราคาเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า ราคา IPO ที่ 34 บ. ปิดที่ 60.5 บ. หรือปรับตัวขึ้นไปถึง 77% จากเดิม

ถ้าสนใจรับชมแบบวีดีโอ สามารถกดดูได้จากลิงค์นี้ค่ะ
ราคา ceiling (ราคาเพดาน) และ floor(ราคาพื้น) เป็นราคาที่ถูกกำหนดขึ้นของหุ้นแต่ละตัวเพื่อให้เกิดความผันผวนมาก เพราะเมื่อถึงราคา ceiling และ floor แล้ว จะไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายในราคาที่สูงกว่า ceiling ได้ และเมื่อราคาถึง floor แล้ว ก็จะไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่านี้ได้
สำหรับหุ้นสามัญที่ซื้อขายกันในตลาดหหุ้นบ้านเรานั้นเดิม กำหนด ราคา ceiling และ floor ไว้ +/- 30% จากราคาปิดของวันก่อนหน้า ดังนั้นราคา ceiling และ floor ก็จะเปลี่ยนไปในทุกวัน ขึ้นกับราคาปิดของหุ้นนั้นในวันก่อนหน้า เช่น ถ้าราคาปิดหุ้นนั้นของวันก่อนหน้า อยู่ที่ราคา 40 บ.
ราคา ceiling = ราคาปิดของวันก่อนหน้า + ( 30% x ราคาปิดของวันก่อนหน้า) = 52 บ.
และ floor = ราคาปิดของวันก่อนหน้า – ( 30% x ราคาปิดของวันก่อนหน้า) = 28 บ.
และต่อมาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีการปรับเกณฑ์ ceiling และ floor ใหม่ เนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 63 มีความผันผวนของตลาดหุ้นในทิศทางลงอย่างมาก ซึ่งปรับลด ceiling และ floor จากเดิม +/- 30% เป็น + /- 15% มีผล 18 มีนาคม 63 – 30 มิถุนายน 63 และล่าสุดได้ขยับเวลาการใช้เกณฑ์ใหม่นี้ไปจนถึง ไม่เกิน 30 กันยายน 63
ส่วนหุ้น IPO ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรกนั้นยังเป็นเกณฑ์เดิม คือ Ceiling อยู่ที่ราคา ไม่เกิน 3 เท่า จากราคา IPO และ Floor ไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท
ซึ่งหุ้นนี้ ราคา IPO คือ 34 ราคา ceiling จึงเป็น 3 x 34 = 102 บ.
ดังนั้นเมื่อหุ้น IPO เข้ามาซื้อขายในตลาดวันแรก จะเป็นเกณฑ์ ceiling และ floor คนละเกณฑ์กับหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่แล้วในตลาด
