ช่วงนี้หลายคนเพิ่งเริ่มยื่นภาษีของปีภาษี 62 เนื่องจากรัฐบาลได้เลื่อนเวลาการยื่นภาษีของปี 62 ให้ถึง 31 สิงหาคม 63 หลายคนได้มีการบริจาคแบบ e-donation เมื่อปีก่อน และก็จำไม่ได้ว่า บริจาคไปเท่าไหร่บ้าง จะหาดูข้อมูลได้จากไหน และเนื่องจากบริจาคเป็นระบบ e-donation จึงไม่มีใบอนุโมทนา แล้วจะใช้อะไรยื่นภาษี ใครสงสัยประเด็นนี้ มาอ่านโพสนี้กันค่ะ
สนใจรับชมแบบวีดีโอ สามารถกดรับชมได้จากลิงค์นี้นะคะ
เงินบริจาค จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินบริจาคแล้ว จะเห็นว่า ตรงนี้เรื่องเงินบริจาคจะคิดเป็น % จากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนนะ ซึ่งจะต่างจากการคิดค่า ลดหย่อนอื่นๆ
เช่น มานะเป็นมนุษย์เงินเดือน โสด มานะมีรายได้ 40(1) ทั้งปี 500,000 บ. หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว 100,000 บ. ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บ. ค่าลดหย่อน PVD 60,000 บ. RMF 40,000 บ. รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ = 500,000 – 100,000 – 60,000 – 60,000 – 40,000 = 240,000 บ. ดังนั้นมานะจะสามารถนำเงินบริจาคไปลดหย่อนได้สูงสุด คือ 240,000 x 10% = 24,000 บ.
สำหรับเงินบริจาคาทั่วไป ถ้าเราบริจาค 5,000 บ. เราก็สามารถนำไปเป็นค่าลดหย่อนได้ 5,000 บ.
แต่ถ้าเป็นเงินบริจาคพิเศษ จะสามารถนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ 2 เท่าของที่บริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินบริจาคแล้ว เช่น ถ้าเราบริจาค 5,000 บ. เราสามารถนำมากรอกเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บ.
เงินบริจาคพิเศษที่ว่านี้คือ…
– เงินบริจาคให้โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งการบริจาคที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลของทางราชการที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าจากลิงค์นี้ได้นะคะ http://www.rd.go.th/publish/27811.0.html
– เงินบริจาคเพื่อการศึกษา ซึ่งตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา ที่ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่านั้น จะต้องบริจาคผ่านระบบ e-Donation เท่านั้นนะ ดังนั้นถ้าเราไม่ได้บริจาคผ่านระบบ e-donation เราก็ยังนำมาลดหย่อนภาษีเพียงแต่จะลดหย่อนได้ 1 เท่า ก็คือตามที่จ่ายจริง
– การกีฬา และการพัฒนาสังคม
ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อสถานที่ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าจากเว็บไซต์ของสรรพากรในส่วนของการบริการข้อมูล ตามลิงค์นี้นะ https://www.rd.go.th/publish/285.0.html
ในปัจจุบันนี้ก็จะมีการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เราเรียกว่าระบบ e-Donation ซึ่งสะดวกต่อผู้บริจาค และไม่ต้องยุ่งยากในการเก็บเอกสารไว้เพื่อลดหย่อนภาษี
เอกสารที่ใช้ในการลดหย่อนจากเรื่องของเงินบริจาคตามปกติคือ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุโมทนาบุญที่มีการระบุชื่อเราเป็นผู้บริจาค แต่ถ้าเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-donation จะไม่ต้องใช้หลักฐานในการบริจาค เพราะพี่สรรพากรจะสามารถเข้าไปตรวจสอบในระบบได้อยู่แล้ว
ถ้าเราบริจาคผ่าน e-donation และก็จำไม่ได้ หรือไม่แน่ใจว่าบริจาคไปเท่าไหร่แน่ ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบในระบบของสรรพากรได้นะ เราสามารถเข้าไปดูได้ว่าตกลงเราบริจาควันไหน ที่ไหน เท่าไหร่ ได้จากลิงค์นี้ https://epit.rd.go.th/BOAPP_RDINET/EFLoginService?service=DNT
โดยใช้ username และ password เดียวกับที่เรายื่นภาษีออนไลน์ พร้อมกับกรอกเลขหลังบัตรประชาชนของเราโดยไม่ต้องกรอกขีดนะ เท่านี้เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่เราบริจาคผ่านระบบ e-donation ได้
การบริจาคนอกจากได้ช่วยเหลือคนอื่น ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะ และถ้าเราบริจาคผ่านระบบ e-donation ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ไม่ต้องคอยจดว่า บริจาคไปเท่าไหร่ และไม่ต้องใช้เอกสารในการยื่นภาษี เพียงแค่กรอกตัวเลขในแบบยื่นภาษีก็เรียบร้อย
————————————
E-book “ก้าวสู่เป้าหมายด้วยกองทุนรวม”
ที่อธิบายถึงเรื่องของกองทุนรวม ค่าต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนลงทุน
วิธีการเลือกกองทุนรวมลักษณะต่างๆ ให้เหมาะกับแผนการเงินของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ตราสารหนี้ การเลือกกองทุนหุ้นแบบ passive และ active fund รวมไปถึงกองทุนประหยัดภาษี
สนใจสามารถเข้าไปทดลองอ่านและสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของ ookbee และ meb ได้เลยนะคะ
หมอยุ่งอยากมีเวลา 