ช่วงนี้หลายคนน่าจะได้ยินว่า บริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์จะมีการออกหุ้นกู้ที่เรียกว่า perpetual bond โดยให้ดอกเบี้ยประมาณ 5% กว่า ต่อปี ซึ่งจะเห็นว่า ให้อัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยสูงกว่า หุ้นกู้โดยทั่วไป ทำไมเขาถึงจ่ายดอกเบี้ยสูง มีอะไรที่ต้องคำนึงถึง หรือข้อควรพิจารณาบ้างถ้าจะลงทุนในหุ้นกู้ประเภทที่เรียกว่า perpetual bond
สนใจรับชมแบบวีดีโอ สามารถกดรับชมได้จากลิงค์นี้นะคะ
ซึ่งนอกจากบริษัทนั้นจะประกาศว่า จะจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่ต่อปีแล้ว เขาจะมีประโยคเหล่านี้ประกาศออกมาด้วยว่า “หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ” ซึ่งประโยคตรงนี้คือ ความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนควรเข้าใจก่อนลงทุน มาเข้าใจกันว่า มีความเสี่ยงยังไงบ้าง
1. เป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ถ้าเกิดผู้ออกตราสารหนี้นั้นเกิดล้มละลาย ผู้ถือหุ้นกู้ประเภทด้อยสิทธินี้จะมีสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายในการชำระหนี้ในอันดับ 3 เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ด้วยกัน คือ จะได้รับชำระหนี้ที่หลังหุ้นกู้แบบมีประกัน และหุ้นกู้แบบไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิ แต่จะได้สิทธิก่อนผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นสามัญ
2. ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ตราสารหนี้โดยทั่วไปจะกำหนดอายุไถ่ถอนไว้ชัดเจน เช่น 5 ปี 10 ปี เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนเราก็จะได้รับเงินต้นคืน โดยระหว่างทางที่ถือก็จะได้รับดอกเบี้ยตามที่เขากำหนดไว้ แต่ perpetual bond นั้น ไม่มีกำหนดอายุไถ่ถอน บางคนจึงเรียกว่า หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงในการที่จะได้รับเงินต้นคืน เพราะไม่รู้แน่ว่าจะได้เงินต้นคืนเมื่อไหร่ ถือเป็น 10 ปี 30 ปี หรือหลายๆ ปี ก็อาจไม่ได้เงินต้นคืน แต่ระหว่างทางก็จะได้ดอกเบี้ยตามที่เขากำหนดไว้
3. ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด ผู้ออกหุ้นกู้หรือบริษัทที่ออกหุ้นกู้นั้นมีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดได้ เช่น บริษัทอาจไถ่ถอนก่อนกำหนด เพื่อไปออกหุ้นกู้อื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่าก็ได้ ดังนั้นถ้าเขาไถ่ถอนก่อนกำหนด จากที่เรา plan ไว้ว่า จะได้ดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ต่อปีไปเรื่อย ๆ ก็จะได้แค่ไม่กี่ปี และเขาก็ไถ่ถอน จ่ายเงินต้นคืนเราก็ได้ แต่ถ้าบริษัทจะไม่ไถ่ถอนก็สามารถทำได้เช่นกันก็ปล่อยเราถือไปเรื่อย ๆ
4. มีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ โดยทั่วไปตราสารหนี้ทั่วไป จะจ่ายดอกเบี้ยตรงเวลาตามที่กำหนดไว้ แต่ perpetual bond จะมีเงื่อนไขให้สามารถเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ซึ่งทำให้คนที่ลงทุนหรือถือ perpetual bond นั้น ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าบริษัทไม่มีปัญหา ก็มักจะจ่ายดอกเบี้ยตามเวลาที่กำหนดไว้ เพราะถ้าบริษัทจะเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย บริษัทก็จะจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ได้ด้วย นอกจากนั้นบริษัทก็จะเสียเครดิตไปด้วยในการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย แต่ถ้าบริษัทจะเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย ก็สามารถทำได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
ดังนั้นนอกจากคิดถึงดอกเบี้ยที่ได้รับแล้ว ถ้าจะลงทุน perpetual bond ก็ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเหล่านี้ด้วย ดังนั้นเมื่อมีความเสี่ยงที่มากกว่าหุ้นกู้โดยทั่วไป บริษัทที่ออก perpetual bond นั้นจึงมักเสนอให้อัตราผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยสูงกว่าหุ้นกู้โดยทั่วไปนั่นเอง
————————————
E-book “ก้าวสู่เป้าหมายด้วยกองทุนรวม”
ที่อธิบายถึงเรื่องของกองทุนรวม ค่าต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนลงทุน
วิธีการเลือกกองทุนรวมลักษณะต่างๆ ให้เหมาะกับแผนการเงินของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ตราสารหนี้ การเลือกกองทุนหุ้นแบบ passive และ active fund รวมไปถึงกองทุนประหยัดภาษี
สนใจสามารถเข้าไปทดลองอ่านและสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของ ookbee และ meb ได้เลยนะคะ
