เงินฝากออมทรัพย์ของทุกธนาคารพาณิชย์รวมกัน ได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บ.ต่อปี ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% (ถ้าได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ น้อยกว่า 20,000 บ. ต่อปี ได้รับยกเว้นภาษีนะ) และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ก็ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% มีทางเลือกอะไรบ้าง สำหรับเงินฝาก ที่ได้ดอกเบี้ยแบบไม่ต้องเสียภาษี มาอ่านกัน 5 แบบเงินฝาก ที่ไม่เสียภาษี
สนใจรับชมแบบวีดีโอ กดรับชมได้จากลิงค์นี้นะคะ
เงินฝากออมทรัพย์ของทุกธนาคารรวมกัน ได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บ.ต่อปี ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ตรงนี้ขอเน้นว่า เป็นดอกเบี้ยที่ได้รับนะ ไม่ใช่เงินต้น
ซึ่งจะเห็นว่า ถ้าบัญชีออมทรัพย์นั้น ได้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี ต้องมียอดเงินฝาก เกิน 4,000,000 บ. ถึงจะได้รับดอกเบี้ย เกิน 20,000 บ. ต่อปี
และถ้าได้รับดอกเบี้ยออมทรัพย์เกิน 20,000 บ. จะคิดภาษีตั้งแต่บาทแรกนะ ไม่ใช่ว่า คิดเฉพาะส่วนที่เกิน 20,000 บ. เช่น ได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ 25,000 บ. ก็จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 25,000 x 15% = 3,750 บ.
แบบนี้ ถ้ากระจายหลายธนาคารได้ไหม เพื่อให้ ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์แต่ละธนคารไม่เกิน 20,000 บ. จะได้ ไม่ต้องถูกหักภาษี ซึ่งจะเลี่ยงแบบนั้น น่าจะไม่ได้ เพราะตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้(ฉบับที่ 55)
“ข้อ 5 กรณีผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากตามข้อ 2 จากทุกธนาคารรวมกัน มีจำนวนทั้งสิ้นเกิน 20,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น ให้แจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าว เพื่อหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งตามมาตรา 50 (2) และมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยแต่ละแห่งได้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นเกิน 20,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้นให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากนั้นหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งตามมาตรา 50 (2) และมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร”
ซึ่งเมื่อปี 2562 มีเรื่องการให้ความยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้สรรพากรนะ
ส่วนถ้าได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ น้อยกว่า 20,000 บ. ต่อปี ได้รับยกเว้นภาษีนะ ดังนั้นถ้ายอดเงินฝากไม่มาก ไม่ได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บ. ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีตรงนี้
ส่วนถ้าเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% นะ

ถ้ามีเงินออมมาก จะมีทางเลือกอะไรบ้าง สำหรับเงินฝาก ที่ได้ดอกเบี้ยแบบไม่ต้องเสียภาษี มาค่อยๆ อ่านกันต่อ
1. เงินฝากเผื่อเรียกของธนาคารออมสิน และสลากออมสิน
เงินฝากเผื่อเรียกของธนาคารออมสิน ก็คล้ายกับออมทรัพย์ ได้ดอกเบี้ยประมาณ 0.25% ต่อปี ซึ่งไม่เสียภาษี
และสลากออมสิน ก็ไม่เสียภาษี และรางวัลที่ได้ก็ไม่เสียภาษี ซึ่งจะมีระยะเวลา 1 ปี , 2 ปี ถอนก่อนอาจถูกหักเงินบางส่วน ตรงนี้ต้องอ่านเงื่อนไข และวางแผนการออมเงินให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะ
2. เงินฝากออมทรัพย์และสลากออมทรัพย์ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส)
เงินฝากออมทรัพย์ของ ธ.ก.ส. และมีให้เลือกหลายแบบ ดอกเบี้ยประมาณ 0.15-0.45% ต่อปี ขึ้นกับลักษณะบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้นๆ ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้รับก็ไม่เสียภาษี
สลาก ธ.ก.ส. ผลตอบแทนที่ได้ ไม่เสียภาษี ซึ่งมีระยะเวลารับฝาก ถ้าถอนก่อน อาจถูกหักเงินบางส่วนได้ อ่านเงื่อนไข และวางแผนการออมเงินให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะ
3. เงินฝากสหกรณ์
ดอกเบี้ยมักสูงกว่าธนาคาร และไม่เสียภาษี ซึ่งสหกรณ์ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่าฝากเงินในธนาคาร อัตราดอกเบี้ยขึ้นกับลักษณะของบัญชีเงินฝาก และตามแต่สหกรณ์กำหนด
4. เงินฝากประจำปลอดภาษี
เงินฝากประจำที่ไม่เสียภาษี 1 คน มีได้เพียง 1 บัญชี ซึ่งเงินฝากประจำปลอดภาษีมีระยะเวลา 24 เดือน 36 เดือน 48 เดือน แล้วแต่ธนาคาร และมีเงื่อนไขที่เพิ่มเติมจากเงินฝากประจำทั่วไป คือ ต้องฝากทุกเดือน ไม่เดือนละเกิน 25,000 บ. สำหรับ 24 เดือน ไม่เกิน 16,500 บ./เดือน สำหรับ 36 เดือน และไม่เกิน 12,500 บ./ เดือน สำหรับ 48 เดือน (รวมสูงสุดไม่เกิน 600,000 บ.)
5. เงินฝากประจำผู้สูงอายุ
สำหรับผู้ที่อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป และฝากประจำตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกบัญชีรวมกัน ไม่เกิน 30,000 บ.ต่อปี ได้รับยกเว้นภาษี
อีกทางเลือกหนึ่ง คือ ลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนพอๆ กับเงินฝากประจำ ส่วนต่างกำไร ไม่เสียภาษี มีสภาพคล่อง T+1 คือ ถ้าสั่งขาย จะได้เงินอีก 1 วันทำการ เช่น สั่งขายวันจันทร์ จะได้เงินวันอังคาร แต่ถ้าสั่งขายวันศุกร์ จะได้เงินวันจันทร์นะ เพราะเสาร์ อาทิตย์เป็นวันหยุดนะ
ลองดูทางเลือกเหล่านี้ เพื่อจะได้ไม่เสียภาษีนะ
————————————
มาเรียนรู้การเลือกหุ้นด้วยตัวเอง เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง
คอร์สที่จัดทำสำหรับมือใหม่ลงทุนหุ้น
ที่จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การเลือกหุ้น การอ่านงบการเงิน รวมไปถึงการประเมินมูลค่าหุ้น
เรียนจบสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อเลือกหุ้นลงทุนได้ด้วยตนเอง
เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ ทวนกี่ครั้งก็ได้ ลงทะเบียนเรียนกันได้เลย
