สรุป!! งบหุ้นกลุ่มธนาคาร 

งบการเงินของธนาคารที่ออกกันมา และคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สามารถเข้าไปหาอ่านได้ในเว็บไซต์ของ set ในหัวข้อ “ข่าว” ตรงหุ้นที่เราสนใจ

กำไรสุทธิ ถ้ามีการเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จะเรียกเป็นการเทียบ year on year ซึ่งปกติมักจะดูการเทียบแบบนี้ ส่วนถ้าเป็นการเทียบไตรมาสนี้กับไตรมาสก่อนหน้าจะเรียก Quarter on quarter นะ จะเห็นว่าธนาคารที่ทำกำไรได้เพิ่มขึ้นโดดเด่น ก็จะเป็น BBL, KTB, TTB

NPL คือ non-performing loans ก็คือ “เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ” หรือก็คือหนี้เสีย

มาตรฐานทางบัญชี TFRS9 มีการจัดชั้นหนี้เป็น 3 ระดับ

ระดับแรก เงินให้สินเชื่อที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต (performing) คือ ลูกหนี้ที่ไม่ได้ผิดชำระหนี้ ชำระหนี้ตามปกติ

ระดับ 2 เงินให้สินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต (under-performing) คือ ลูกหนี้ค้างชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นเกินกว่า 30 วัน

และระดับ 3 เงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (non-performing; NPL) สินเชื่อที่ผิดชำระหนี้หนี้เกิน 3 เดือนติดต่อกัน ลูกหนี้ถึงแก่ความตาย/ สาญสูญ เลิกกิจการ

เวลาที่เราดูหุ้นกลุ่มธนาคารก็ควรมองเรื่องของ NPL ด้วย ว่า NPL เท่าไหร่ และ % NPLs ต่อสินเชื่อรวม ซึ่งคิดจาก NPL มาเทียบกับเงินให้สินเชื่อโดยรวม ออกมาเป็น % นะ

NPL Coverage Ratio คือ เงินสํารองหนี้สูญต่อหนี้ที่ทำให้ไม่เกิดรายได้ คํานวณจาก การเอาค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญหารด้วยเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ

ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin หรือ NIM) คิดมาจากแบบนี้

(รายได้ดอกเบี้ยรับ – ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย) / สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ย

ธนาคารมีดอกเบี้ยรับ และดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ที่มากกว่าแค่ เรื่องของสินเชื่อ และเงินฝาก เพราะธนาคารมีดอกเบี้ยรับการลงทุนในตราสารหนี้ ดอกเบี้ยจ่ายจากการออกตราสารหนี้ มีดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้ยืมกันเองระหว่างธนาคารด้วย

NIM จะบอกถึงความสามารถในการหารายได้ของธนาคารจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายทั้งหมด จึงเป็นอัตราส่วนทางการเงินตัวหนึ่งที่ไว้ใช้วัดผลกำไรเบื้องต้นในการดูหุ้นกลุ่มธนาคาร

ROE (Return on Equity) หรือ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น

คิดจาก กำไรสุทธิ/ ส่วนผู้ถือหุ้น

อัตราส่วนนี้เป็นอัตราส่วนที่สำคัญ เป็นการบอกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ธนาคารนั้นๆ ทำผลตอบแทนกลับมาได้เท่าไหร่ จากเงินของผู้ถือหุ้นที่ได้ลงไป ค่านี้จึงยิ่งสูง ยิ่งดี

ROE มีผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่มธนาคารด้วย การประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่มธนาคารนั้นจะใช้ P/BV (price per book value) เนื่องจากทรัพย์สินของธนาคารส่วนใหญ่นั้นเป็นเงิน และเงินลงทุนต่างๆ ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับมูลค่า และ ROE นั้นมีความสัมพันธ์กับ P/BV ยิ่ง ROE สูง การประเมินมูลค่าด้วย P/BV จะสูงขึ้น

ช่วงนี้เป็นช่วงที่งบการเงินไตรมาส 1/66 ทยอยออกกันมา ซึ่งปกติของหุ้นกลุ่มธนาคารก็จะออกมาก่อน ดังนั้นถ้าใครสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ ก็ลองอ่านงบการเงินที่ออกมากัน ส่วนถ้าไม่ได้สนใจหุ้นกลุ่มนี้เท่าไหร่ ก็แนะนำให้ลองอ่าน คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ เพื่อเข้าใจภาวะเศรษฐกิจนะ

……………………………………………….

มาเรียนรู้การเลือกหุ้นด้วยตัวเอง เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง

เรียนจบ สามารถนำไปปรบใช้เพื่อเลือกหุ้นลงทุนได้ด้วยตนเอง

เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ ทวนกี่ครั้งก็ได้

ลงทะเบียนเรียนกันได้เลย

Advertisement

Published by DoctorWantTime

แพทย์ผู้ชื่นชอบการลงทุน

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: