MGI บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัทประกอบธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและอาหาร และเป็นตัวแทนนายหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับศิลปิน เข้ามาจดทะเบียนในตลาดเมื่อ 14 ธ.ค. 66
และเมื่อวันที่ 31 มี.ค 67 บริษัทได้ซื้อหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 30 ล้านหุ้น (เป็นสัดส่วน 1.7% ของหุ้น SABUY ทั้งหมด) MGI ซื้อมาที่หุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นเงิน 135 ล้านบาท ราคาหุ้น SABUY ที่ลดลง ส่งผลต่องบของ MGI ไหม อย่างไร มาค่อยๆ อ่านกัน
งบ Q2/67 MGI มีรายได้ 237.28 ลบ. เพิ่มขึ้น 10.58% และมีกําไรสุทธิ 58.93 ลบ. เพิ่มขึ้น 24.59% จาก Q2/66 และมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน 62.13 ลบ. ซึ่งก็ถือว่าดี ทั้งรายได้และกำไรเติบโตและมีเงินสดจากการดำเนินงาน
มีข้อสังเกตตรงส่วนของงบดุล Q2/67 เมื่อดูในส่วนของผู้ถือหุ้น บริษัททำกำไรได้ตลอด ซึ่งเมื่อมีกำไรสะสมเข้ามา ก็จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตขึ้น แต่ส่วนของ MGI ส่วนผู้หุ้นกลับลดลง จาก 454 ลบ. เป็น 414 ลบ เมื่อสิ้นไตรมาส 2/67
เมื่อเข้าไปดูงบเต็มในส่วนผู้ถือหุ้น จะเห็นว่ามียอด – 89.04 ลบ. องค์ประกอบอื่นของผู้ถือหุ้นเข้ามาหัก จริงๆ เราจะเห็นยอดนี้ในส่วนของบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ เป็นส่วนต่อจากบรรทัดกำไรสุทธิลงมา เป็นกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น จะเป็นบรรทัดต่อลงมาจากกำไรสุทธิ ซึ่งก็จะมีเป็นบรรทัด “ รายการที่จะไม่ถูกบันทึกในส่วนกำไรขาดทุนในภายหลัง -กำไร(ขาดทุน) จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินลงทุนในตราสารทุนที่กำหนดให้วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น”
ตรงนี้คือที่ MGI ดอยหุ้น SABUY อยู่ เป็น Unrealized loss คือยังไม่ได้ขาย แต่เมื่อคิดมูลค่าตามราคาตลาดแล้วขาดทุน
MGI เลือกบันทึกเงินลงทุนใน SABUY เข้ามาในส่วนนี้ ผลของกำไรขาดทุนของราคาหุ้นที่บริษัทถือที่มีการขึ้นลง จะไม่กระทบกับกำไรสุทธิ และ กำไรต่อหุ้น (earning per share; EPS) แต่จะเข้าไปกระทบในส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้น
ดังนั้นการที่หุ้น SABUY ปรับลดลงมาอย่างมาก จะไม่กระทบกับกำไรสุทธิของ MGI แต่จะกระทบเข้ามาในส่วนของผู้ถือหุ้น
เงินลงทุน คือ บริษัทเข้าไปถือหุ้นอีกบริษัทหนึ่ง 0-20% โดยสามารถเลือกบันทึกใน 2 แบบ เลือกแบบใดแบบหนึ่ง เลือกแบบไหนก็จะบันทึกแบบนั้นไป
อย่างแรกคือบันทึกในงบกำไรขาดทุน จะเห็นบรรทัด “กําไร(ขาดทุน)จากการวัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมมของเงินลงทุนในตราสารทุน” ซึ่งการบันทึกนี้จะกระทบกับกำไรขาดทุน และ กำไรต่อหุ้น
เช่น KAMART บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือ MGI บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรืออย่างของ EKH บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) ถือ KLINIQ บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน)
อีกแบบคือบันทึกในกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ที่ MGI บันทึก ซึ่งการเลือกบันทึกเข้ามาในส่วนนี้ ผลของกำไรขาดทุนของราคาหุ้นที่บริษัทถือที่มีการขึ้นลง จะไม่กระทบกับกำไรสุทธิ และ กำไรต่อหุ้น แต่จะเข้าไปกระทบในส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้น
ส่วนถ้า ถือหุ้น 20-50% จะเรียกบริษัทร่วม จะบันทึกกำไรตามส่วนแบ่งกำไรขาดทุนของบริษัทรวม ตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ เช่น ที่ JMART บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (สุกี้ตี้๋น้อย หรือ Teenoi) 30% ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากสุกี้น้อย 83 ลบ. ใน Q1/67 (ก็คือ สุกี้ตี้น้อยมีกำไรสำหรับงวด 276.7 ลบ. และ JMART ได้มา 30% คือ 83 ลบ.)
ส่วนถ้าถือหุ้น 50-100% จะเรียกบริษัทย่อย จะบันทึกงบเป็น งบรวม คือนำรายได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบริษัทย่อยมารวมเข้ากับบริษัทแม่ ออกมาเป็น งบการเงินรวม เช่น TU บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น ITC บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 78.82%
…………………
หนังสือการอ่านงบการเงิน พร้อมตัวอย่างงบจากหุ้นจริง
ที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า งบการเงินไม่ได้ยากอย่างที่คิด 
มีทั้งหนังสือเล่ม และ E-book ให้ได้เลือกอ่านกันได้อย่างสะดวกนะคะ สามารถซื้อได้ทั้งจาก Shopee, Lazada และ TikTok Shop และตามร้านหนังสือ รวมทั้ง meb ด้วยนะ
ซื้อได้ในแอป Shopee https://th.shp.ee/nD7qmb9
หรือ ช้อปเลยที่ลาซาด้า https://s.lazada.co.th/s.p0FFo
หรือ TikTok Shop ก็ได้ https://vt.tiktok.com/ZSYwPWHFD/
มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือ SE-ED ด้วยนะคะ
และมีเป็น E-book ด้วยนะคะ ซื้อได้ทาง meb นะคะ E-book ผ่าหุ้นด้วยงบการเงิน https://www.mebmarket.com/ebook-313592-ผ่าหุ้นด้วยงบการเงิน
หมอยุ่งอยากมีเวลา 