
อย่างที่เราเข้าใจกันว่า ROA นั้นคิดมาจาก กำไรหารด้วยสินทรัพย์ ส่วน ROE คิดมาจาก กำไรหารด้วยส่วนผู้ถือหุ้น ตัวหารไม่เหมือนกัน ซึ่งสินทรัพย์สูงกว่าส่วนผู้ถือหุ้น แต่ทำไมเมื่อปี 2560 หุ้นนี้ ถึงมีค่า ROA และ ROE เท่ากัน ใครสงสัยมาอ่านโพสนี้กัน…
ถ้าชอบรับชมแบบคลิปวีดีโอ สามารถกดรับชมได้จากลิงค์นี้นะคะ
ROA และ ROE เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง และเราจะเห็นค่านี้อยู่ใน “ผลประกอบการสำคัญ (ตาราง)” และหน้า “สรุปข้อสนเทศของบริษัทจดทะเบียน” ในเว็บต์ของ set ตรงหุ้นที่เราสนใจ
ROA คือ return on asset การคิด จะคิดจาก กำไร/ สินทรัพย์รวม จึงเป็นค่าที่บอกว่า บริษัทสามารถนำทรัพย์สินที่มีไปก่อให้เกิดผลกำไรได้ดีแค่ไหน
โดยในการคิด ROA ในเว็บไซต์ของ set นั้น ในส่วนของ กำไร นั้น จะใช้ “กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษี(EBIT)” เป็นตัวตั้ง
ส่วน สินทรัพย์รวมนั้นจะใช้ “สินทรัพย์รวมเฉลี่ย”
ถ้าเป็นงบปี ส่วนของสินทรัพย์รวมเฉลี่ย จะเป็น สินทรัพย์รวมปีก่อนหน้า + สินทรัพย์รวมปีปัจจุบัน แล้วหารด้วย 2 เพื่อเป็นค่าเฉลี่ย แต่ถ้าเป็นงบไตรมาส สินทรัพย์รวมจะนำ สินทรัพย์รวมไตรมาสก่อนหน้า + สินทรัพย์รวมไตรมาสปัจจุบัน แล้วหาร 2
ส่วน ROE หรือ return on equity นั้นคิดมาจาก กำไรสุทธิ/ ส่วนผู้ถือหุ้น
ส่วน ROE นั้นเป็นอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงินอย่างหนึ่ง ในการวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และใช้เป็นตัวตัดสินใจอันหนึ่งว่า กิจการนั้นน่าลงทุนหรือเปล่า
โดยการคิด ROE ในเว็บไซต์ของ set นั้นจะใช้กำไรสุทธิ เป็นตัวตั้ง และหารด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย
ลองมาคิดของหุ้นนี้กัน
เริ่มที่ ROA
กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี(EBIT) ปี 60 = 34,254.25 ลบ. (ค่ากำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีนี้ สามารถกาได้จากหน้าสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน ในตารางงบกำไรขาดทุนนะ)
สินทรัพย์รวมเฉลี่ยจะคิดจาก สินทรัพย์ของปี 59 และ ปี 60 มาเฉลี่ยกันแบบนี้ (676,889.53 + 628,121.29)/ 2 = 652,505.41
ROA ปี 60 = 34,254.25/ 652,505.41 =0.0525 = 5.25%

ส่วน ROE
กำรสุทธิปี 2560 = 20,579.46 ลบ.
ส่วนผู้ถือหุ้นเฉลี่ย = (407,983.92 + 376,374.73)/ 2 = 392,179.325 ลบ.
ROE ปี 60 = 20,579.46/ 392,179.325 = 0.0525 = 5.25%
ข้อสังเกตของ ROA
– ROA ยิ่งสูง ยิ่งดี
เพราะเป็นอัตราส่วนที่บอกถึงประสิทธิภาพของบริษัทในการนำสินทรัพย์ไปลงทุนให้เกิดผลตอบแทน โดยเป็นค่าที่แสดงถึงผลกำไรที่บริษัทหาได้จากสินทรัพย์ทั้งหมด
– ROE สูงต่างจาก ROA มาก แสดงว่ากิจการนั้นใช้พลัง leverage จากหนี้สินได้ดี แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงจากการที่มีหนี้สินมาก
อัตราส่วนทางการเงินเป็นส่วนสำคัญในการดูงบการเงิน ซึ่งเราควรเข้าใจความหมายและข้อสังเกตของอัตราส่วนเหล่านี้ด้วย
