RO ของแต่ละค่ามาจาก return on… ก็คือ ผลกำไรต่อ… ดังนั้นค่าเหล่านี้ยิ่งสูง ยิ่งดี
ในงบดุล; สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น
ถ้ามองในฝั่งของสินทรัพย์ ว่าสินทรัพย์ที่มีทำให้เกิดผลกำไรมากน้อยเท่าไหร่ คือ ROA (return on total asset) กับ ROCE (return on capital employed)
ถ้ามองในอีกฝั่ง คือฝั่งที่มาของเงินลงทุน จากหนี้ กับส่วนของเจ้าของ (ส่วนผู้ถือหุ้น) ก็คือ ROE (return on equity) กับ ROIC (return on investment capital)
ROA คิดมาจาก กำไร ต่อสินทรัพย์รวม โดยกำไรที่ใช้จะเป็น EBIT (earning before interest and tax กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี) เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงดอกเบี้ยที่เป็นภาระที่เกิดจากหนี้สิน ROA จึงบอกว่า สินทรัพย์ที่มีก่อให้เกิดกำไรได้ดีแค่ไหน
ROCE ยังเป็นการในฝั่งของสินทรัพย์เป็นหลักอยู่ โดยมองในส่วนของ Operating Assets (สินทรัพย์ดำเนินงาน) โดยสินทรัพย์ดำเนินงาน จะคิดจาก สินทรัพย์รวม ลบด้วย หนี้สินหมุนเวียน
ROCE คิดจาก EBIT หารด้วย operating asset
ต่อมาย้ายฝั่งมามอง ที่มาของเงินลงทุน ROE ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น มองเฉพาะทุนในส่วนของเจ้าของ และใช้กำไรสุทธิ ที่หักดอกเบี้ยแล้ว เพราะดอกเบี้ยเป็นต้นทุนของหนี้สิน ROE จึงคิดจาก กำไรสุทธิ หาร ส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่ง ยิ่งสูง ยิ่งดี แต่ก็ต้องระวังบริษัทมีโครงสร้างที่หนักไปทางหนี้สิน จะทำให้ ROE สูงได้
ROIC ผลตอบแทนต่อเงินลงทุน ซึ่งเงินก็มาจากทั้งหนี้สิน และส่วนของเจ้าของ ROIC จะใช้ NOPAT(net operating profit after tax กำไรก่อนดอกเบี้ยซึ่งหักภาษีแล้ว) หรืออาจใช้ EBIT คือไม่หัก tax เนื่องจากดอกเบี้ยเป็นต้นทุนของเจ้าหนี้ และดอกเบี้ยมีผลกระทบต่อภาษีได้ บริษัทที่มีภาระดอกเบี้ยสูง ก็จะทำให้เสียภาษีน้อยลงได้
ส่วนตัวที่นำมาหาร คือ เงินลงทุนที่คำนึงถึงทั้งส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย และหนี้สิน โดยหนี้สินอาจใช้หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย หรือ หนี้สินระยะยาว เนื่องจากเงินลงทุนแต่ละแหล่งจะมีต้นทุนเงินทุนอยู่ ทั้งต้นทุนเงินทุนของหนี้สิน คือ ดอกเบี้ย และต้นทุนเงินทุนของส่วนของผู้ถือหุ้น
ROIC คิดจาก กำไรก่อนดอกเบี้ยซึ่งหักภาษีแล้ว / (ส่วนผู้ถือหุ้น+หนี้สินระยะยาว)
ROA และ ROCE มองอัตราผลต่อแทนจากฝั่งของสินทรัพย์ โดย ROA เน้นการวัดผลตอบแทนจากการใช้สินทรัพย์ทั้งหมด ส่วน ROCE เน้นการวัดผลตอบแทนจาก operating asset
ROE และ ROIC มองฝั่งที่มาของเงินลงทุน โดย ROE มองผลตอบแทนจากมุมมองของผู้ถือหุ้น ส่วน ROIC มองผลตอบแทนจากมุมมองของเงินลงทุนทั้งหนี้สินและส่วนของเจ้าของ
ROCE และ ROIC จะมีความคล้ายกันพอสมควร แต่มาจากมุมองของคนละฝั่ง
แต่ละตัวก็มีมุมองในการวัดที่ต่างกันไป ค่า ROCE และ ROIC จะไม่ได้มีแสดงในเว็บไซต์ของ set อาจเห็น ในบทวิเคราะห์ ใน Oppday หรือในเว็บไซต์ของ Morningstar ถ้าไม่มี ROIC, ROCE ก็พอดูแนวโน้มของ ROE และ ROA ได้
………………………………..
มีการอ่านงบการเงิน และข้อมูลหุ้นจริง ที่เรียบเรียง รวมรวบ เพิ่มเติมรายละเอียดอีกหลายเรื่อง ใน eBook “ส่องหุ้นด้วยงบการเงิน” สั่งซื้อกันได้จาก MEB และ OOKBEE
หรือจาก OOKBEE
http://www.ookbee.com/Shop/Book/6d8e08bd-9913-4250-98be-4c9b7de73a44
หมอยุ่งอยากมีเวลา 