ในภาวะที่มีความผันผวนของตลาด และแนวโน้มในช่วงนี้ของตลาดหุ้นอาจไม่สดใสมากนักนะ การลงทุนในหุ้นพื้นฐานก็เป็นสิ่งน่าสนใจ
ในการเลือกว่าเราจะลงทุนในหุ้นไหน สิ่งสำคัญสิ่งแรกคือ เราต้องรู้จักบริษัทที่เราลงทุน เราควรอ่าน 56-1 เพื่อเข้าใจบริษัท ไม่ว่าจะเป็น เขาทำมาหากินอะไร รายได้มาจากไหน ความเสี่ยงคืออะไร และหลังจากที่เราเข้าใจบริษัทที่เราจะลงทุนแล้ว ในการดูงบการเงินก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ
มาดูกันว่า 5 อัตราส่วนทางการเงิน จากในงบการเงิน มีอะไรบ้าง…
1. อัตราส่วน หนี้สิน/ทุน (Debt/Equity: D/E ratio) ไม่ควรจะสูงเกินไป ยิ่งหนี้สินมากเท่าไหร่ ก็จะมีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจมาก โดยเฉพาะถ้ามีวิกฤตเข้ามาอย่างเช่นในเวลานี้ ก็อาจจะเจ๊งได้ ดังนั้นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน จะบอกความมั่นคงของกิจการได้ซึ่งอัตราส่วนนี้ถ้าน้อยกว่า 1 ก็ดี หรือ ไม่ควรเกิน 1.5-2 เท่า
2. กำไรต่อหุ้นดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ บริษัทที่น่าสนใจคือ บริษัทที่ทำกำไรได้ตลอด และแนวโน้มควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางปีที่ไม่ดี กำไรอาจลดลงไปได้บาง แต่ไม่ควรถึงขนาดขาดทุน ซึ่งการคิดกำไรต่อหุ้น นั้น คิดมาจาก กำไรสุทธิ/ จำนวนหุ้น ดังนั้นถ้ามีการเพิ่มทุน ถึงแม้จะทำกำไรได้เท่าเดิม แต่กำไรต่อหุ้นก็จะลดลง
3. ค่า ROE สูงอย่างสม่ำเสมอ ROE (return on equity) คิดมาจาก กำไรสุทธิ/ ส่วนผู้ถือหุ้น ถ้าค่า ROE สูง อย่างน้อยควรเกิน 10% ขึ้นไป ถ้าค่านี้ยิ่งสูง แสดงว่าบริษัทสามารถบริหารเงินทุนได้ดี นอกจากดูว่าสูงแล้ว ควรดูถึงความสม่ำเสมอของอัตราส่วนนี้ด้วย ROE ที่สูงนอกจากมีความสามารถในการทำกำไรได้ดี อาจแสดงถึงว่าบริษัทสามารถใช้พลัง leverage จากหนี้สินได้ดีซึ่งเหมือนจะเป็นข้อดี แต่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องระวังเหมือนกัน ดังนั้นการดูค่า ROE ควรดูเรื่องของหนี้สินประกอบด้วย

4. อัตรากำไรสุทธิดี อย่างสม่ำเสมอ หรือเพิ่มขึ้น อัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) นั้นคิดมาจาก กำไรสุทธิ/ รายได้ ดังนั้นการที่อัตรากำไรขั้นสุทธิสูง และบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรนี้ในระดับนี้ได้ตลอดหรือเพิ่มขึ้น แสดงว่าบริษัทนั้นมีความสามารถในการแข่งขัน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
5. Dividend yield หรืออัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน เป็นการดูการปันผลของกิจการเมื่อเทียบกับราคาหุ้น พอจะบอกได้ว่า ถ้าเราลงทุนหุ้นที่ราคาเท่านี้ เรามีโอกาสที่จะได้เงินปันผลกี่ % เพราะค่านี้คิดมาจาก เงินปันผล/ ราคาหุ้น ค่านี้อาจเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ ถึงแม้บริษัทจะปันผลเท่าเดิม เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับขึ้นลง การดูค่านี้ให้ดูว่าย้อนหลังว่า กิจการมีความสม่ำเสมอในการปันผลด้วยหรือไม่
จะเห็นว่าการดูหุ้นพื้นฐานดีเบื้องต้นนั้น เราสามารถดูได้จากงบการเงิน และอัตราส่วนทางการเงินที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร และค่างบการเงินเหล่านี้ สามารถหาดูได้จาก ตารางผลประกอบการสำคัญ และสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน ตรงหุ้นที่เราสนใจในเว็บไซต์ของ set และในการวิเคราะห์ควรดูอัตราส่วนทางการเงินประกอบกัน เทียบกับอดีตของกิจการ และเทียบกับกิจการที่คล้ายกัน หรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ลองปรับใช้กันดูนะ
